ความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามกรอบการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ (TCFD) และ

กรอบการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ (TNFD) ในภาคการเงินของไทย ตอนที่ 1 (2/2)

ความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามกรอบการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ (TCFD) และกรอบการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ (TNFD) ในภาคการเงินของไทย (2/2)
  • Blog
  • 5 minute read
  • 06 Jun 2025

บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง: การรายงานความยั่งยืนในภาคการเงินของประเทศไทย

การรายงานความยั่งยืนกำลังได้รับความสนใจมากขึ้นในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การนำกรอบการทำงาน เช่น กรอบการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ (Task Force on Climate-related Financial Disclosures: TCFD) และ กรอบการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ (Taskforce on Nature-related Financial Disclosures: TNFD) มาใช้นั้น มีระดับความพร้อมที่แตกต่างกันไปในแต่ละองค์กร และส่วนใหญ่ยังคงเป็นไปโดยสมัครใจ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้ และกำลังดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ ธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีโครงการริเริ่มที่สำคัญ ได้แก่:

  • ก.ล.ต. ได้เริ่มการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับแผนงานระยะห้าปีสำหรับการนำมาตรฐานคณะกรรมการมาตรฐานการรายงานความยั่งยืนระหว่างประเทศ (International Sustainability Standards Board: ISSB) มาใช้สำหรับบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการทำให้การเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนเป็นมาตรฐานเดียวกันตามแนวทางของมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ (International Financial Reporting Standards: IFRS) S1 และ S2[3]
  • เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ก.ล.ต. ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกฟอรัมของมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ (TNFD Forum) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ[4]
  • ธปท. ได้ออกประกาศนโยบายที่มุ่งเน้นการบูรณาการปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมเข้าสู่การดำเนินงานและกลยุทธ์ของบริษัททางการเงิน ซึ่งได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากการเผยแพร่เอกสารแนวทาง และคู่มืออุตสาหกรรมที่ปรับให้เหมาะสมกับภาคการเงิน[5,6]

เป็นที่น่าสังเกตว่า มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การบังคับการเปิดเผยข้อมูลในตลาดการเงินอื่น ๆ นอกประเทศไทย เช่น มาเลเซีย[7] สิงคโปร์[8] เขตบริหารพิเศษฮ่องกง[9] และสหภาพยุโรป (EU)[10] ได้บังคับใช้กฎระเบียบการรายงานที่กำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ

ระดับความพร้อมของการเปิดเผยข้อมูลตามกรอบ TCFD และ TNFD ในภาคการเงินไทย

ปัจจุบัน บริษัทไทยประมาณ 60% เปิดเผยข้อมูลตามแนวทางของ TCFD อย่างจริงจัง (ดังแสดงในรูปที่ 3) ซึ่งบ่งชี้ถึงความตระหนักที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มธุรกิจไทยเกี่ยวกับความสำคัญของการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศอย่างโปร่งใส

รูปที่ 3: จำนวนบริษัทที่เปิดเผยข้อมูลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามมาตรฐาน TCFD ในแต่ละประเทศและอาณาเขต

รูปที่ 3: จำนวนบริษัทที่เปิดเผยข้อมูลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามมาตรฐาน TCFD ในแต่ละประเทศ (PwC Sustainability Counts III)

ที่มา: Sustainability Counts II, การวิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่บริษัทจดทะเบียน 50 อันดับแรกตามมูลค่าตลาดจาก 14 ประเทศและอาณาเขตทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ในปี 2567 บริษัทในธุรกิจการเงินไทย โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นในการปรับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศให้สอดคล้องกับแนวทางของ TCFD ที่เห็นได้ชัดคือ ธนาคารไทยหลายแห่งได้เผยแพร่รายงาน TCFD ฉบับแรกในปีที่ผ่านมา[11,12] ซึ่งมีแนวโน้มว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นผลมาจากความคาดหวังของหน่วยงานกำกับดูแล (ธปท.) ที่ต้องการให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการทดสอบภาวะวิกฤตด้านความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศ (climate risk stress tests) และรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศอย่างน้อยปีละครั้ง[6] ตามแนวทางของ ธปท. ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอแนะของ TCFD นอกจากนี้ ในการเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะของ ก.ล.ต. เกี่ยวกับการนำ IFRS S1 และ S2 มาใช้ บริษัททางการเงินไทยจำนวนมากขึ้นกำลังตระหนักถึงความสำคัญของกฎระเบียบที่กำลังจะมาถึง และกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศตามมาตรฐาน IFRS S2

ในขณะที่มีการนำกรอบ TCFD มาใช้เพิ่มขึ้นในประเทศไทย การรายงานที่สอดคล้องกับ TNFD ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยในปัจจุบัน มีเพียงสี่บริษัทในประเทศไทยที่ให้คำมั่นสัญญาต่อสาธารณะว่าจะนำกรอบ TNFD มาใช้ อย่างไรก็ตาม ทั้งสี่บริษัทดังกล่าว ไม่มีบริษัทใดอยู่ในภาคการเงิน[13]

แม้ว่าการรายงานตามแนวทางของ TCFD และ TNFD ในปัจจุบันอาจยังไม่มีความชัดเจนมากนัก แต่การรายงานความยั่งยืนของหลายบริษัท ก็มีความสอดคล้องกับข้อเสนอแนะของทั้งกรอบ TCFD และ TNFD โดย PwC ได้ดำเนินการประเมินระดับความพร้อมของบริษัทในภาคการเงิน 17 แห่งในสี่กลุ่มย่อย ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทจัดการสินทรัพย์ ธนาคารของรัฐ และบริษัทประกันภัย บริษัททั้ง 17 แห่งนี้เป็นตัวแทนที่สะท้อนภาพรวมของภาคการเงินไทยในวงกว้าง เพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์ในภาคการเงินไทย

ผลการประเมินของเราบ่งชี้ว่า โดยเฉลี่ยแล้ว ภาคการเงินไทยกำลังมีความก้าวหน้าในการปรับตัวให้สอดคล้องกับข้อเสนอแนะของทั้ง TCFD และ TNFD โดยบริษัทจัดการสินทรัพย์และธนาคารพาณิชย์เป็นผู้นำในกลุ่มย่อย ในขณะที่ธนาคารของรัฐและบริษัทประกันภัยยังคงต้องมีการพัฒนาอีกมากในด้านนี้
 

โปรดติดตามตอนถัดไปของบทความฉบับนี้ที่ PwC จะอัปเดตและข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับผลการวิเคราะห์ความพร้อมด้าน TCFD และ TNFD ของภาคการเงินในประเทศไทย
 


ผู้เขียน:

Chayathorn Chanruangvanich
Partner, Sustainability Advisory Services, PwC Thailand

Perpetua George
Director, Asia Pacific Sustainability, Nature & Biodiversity, PwC Malaysia

คลิกที่นี่เพื่ออ่านตอนที่ 1 (1/2)

Click here to read English version

Contact us

Marketing and Communications

Bangkok, PwC Thailand

Tel: +66 (0) 2844 1000, Ext. 4713-15, 18, 22-24, 26, 28 and 29

Follow us