รายงานผลสำรวจธุรกิจครอบครัวทั่วโลก ครั้งที่ 12 ฉบับประเทศไทย

PwC’s 12th Global Family Business Survey – Thailand Snapshot
  • Survey
  • 10 minute read
  • 27 Nov 2025

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจครอบครัวไทยกำลังยืนอยู่ท่ามกลางกระแสเมกะเทรนด์ที่ส่งผลกระทบต่อแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พลิกโฉมระบบการทำงาน ไปจนถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ท้าทายความยั่งยืนขององค์กร ซึ่งทุกสถานการณ์ล้วนเชื่อมโยงกับความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจครอบครัวจึงต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เพื่อช่วงชิงโอกาสใหม่ ๆ ท่ามกลางความท้าทายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

งานวิจัย ‘Value in motion’ ของ PwC ได้สะท้อนให้เห็นว่า เมกะเทรนด์เหล่านี้กำลังขับเคลื่อนองค์กรต่าง ๆ ให้ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมสู่ ‘โดเมนแห่งการเติบโต’ ที่ไม่ใช่แค่การปรับตัวแบบเดิม แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศธุรกิจใหม่ในทศวรรษหน้า ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ ธุรกิจครอบครัวไทยกำลังเผชิญกับทางเลือกสำคัญ นั่นคือ การรักษามรดกและเอกลักษณ์ดั้งเดิม หรือการเปิดรับนวัตกรรมและความคล่องตัวเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว ข้อมูลล่าสุดของเราสะท้อนถึงความพยายามในการปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ เป้าหมายธุรกิจ การลงทุน และโครงสร้างองค์กร เพื่อก้าวสู่ยุคใหม่อย่างมั่นใจ

รายงานผลสํารวจธุรกิจครอบครัวทั่วโลก ประจำปี 2568 ของ PwC เป็นการสำรวจตลาดธุรกิจครอบครัวระหว่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทําความเข้าใจมุมมองของผู้นำธุรกิจครอบครัวที่มีต่อบริษัทและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน การสำรวจครั้งนี้เราร่วมมือกับ John L. Ward Center for Family Enterprises แห่ง Northwestern University ในนามของ Kellogg School of Management ซึ่งการสํารวจครั้งนี้ดำเนินการสัมภาษณ์ออนไลน์จำนวน 1,325 ราย จาก 62 ประเทศและอาณาเขต รวมถึง 36 รายจากประเทศไทย ทำให้เราเห็นมุมมองและข้อมูลที่น่าสนใจของผู้นำธุรกิจครอบครัวไทยต่อสถานการณ์ปัจจุบันในหลาย ๆ แง่มุม

ดาวน์โหลดรายงานฉบับนี้

แรงกดดันด้านการเติบโต

ผลสำรวจธุรกิจครอบครัวไทยฉบับล่าสุด เผยให้เห็นภาพที่น่าสนใจต่อกระแสโลก โดย 69% ของผู้นำธุรกิจครอบครัวไทยต่างเห็นพ้องว่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมาได้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องฝ่าฟันมากที่สุด ตามมาด้วยการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมและความคาดหวังของผู้บริโภคที่มีอิทธิพลถึง 53% รวมไปถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า หรือความไม่มั่นคงในแต่ละภูมิภาค ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจถึง 44%

เมื่อมองลึกลงไป เราพบว่ายังมีความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงและแรงกดดันจากตลาด (67%) การพัฒนาผู้นำและบุคลากรที่มีศักยภาพสูง (56%) หรือแม้แต่การรักษาสมดุลระหว่างเป้าหมายระยะสั้นกับเป้าหมายระยะยาว (42%)

สามเมกะเทรนด์ระดับโลกที่มีผลกระทบต่อธุรกิจครอบครัวไทยมากที่สุดในปีที่ผ่านมา

คำถาม: แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระดับโลกใดต่อไปนี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจครอบครัวของคุณมากน้อยเพียงใด ในปีที่ผ่านมา?

ที่มา: รายงานผลสำรวจธุรกิจครอบครัวทั่วโลก ประจำปี 2568 ฉบับประเทศไทยของ PwC

ผลกระทบจากเมกะเทรนด์เหล่านี้ ยังปรากฏในข้อมูลยอดขายของปีที่ผ่านมา โดยมีธุรกิจครอบครัวไทยเพียง 44% ที่มียอดขายเติบโต ลดลงจาก 59% เมื่อสองปีก่อน ขณะเดียวกัน มีเพียง 22% ที่สามารถสร้างการเติบโตของยอดขายเป็นตัวเลขสองหลัก ตามผลการสำรวจล่าสุด

การปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลง

เพื่อรับมือกับแรงกดดันรอบด้านที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง หลายธุรกิจได้หันมาปรับกลยุทธ์จากการมุ่งเติบโตแบบก้าวกระโดดสู่ ‘การเติบโตที่เน้นความมั่นคง’ เป็นหลัก ทว่าเส้นทางนี้ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายและแนวทางแบบอนุรักษนิยมที่ฝังลึกอยู่ในดีเอ็นเอของธุรกิจครอบครัวไทย สังเกตได้จากผลสำรวจที่พบว่า มีเพียง 11% ของธุรกิจที่กล้าทะยานสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการกล้าที่จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การบริหารแบบใหม่ ๆ เพื่อรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน และที่น่าจับตาคือ ยังไม่มีธุรกิจครอบครัวไทยรายใดกล้ากระโจนเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงในระดับพลิกโฉมอย่างเต็มรูปแบบ (ขณะที่ทั่วโลกมี 3% ที่กล้าเสี่ยง) สะท้อนถึงความระมัดระวังโดยธรรมชาติของธุรกิจครอบครัวไทย ที่อาจเป็นทั้งจุดแข็งในยามวิกฤตและข้อจำกัดในการคว้าโอกาสใหม่ในเวลาพร้อมกัน

การตอบสนองของธุรกิจครอบครัวไทยต่อภาวะชะงักงันของตลาด หรือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรม

คำถาม: ในช่วงที่เกิดความผันผวนของตลาดหรือมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรม ธุรกิจครอบครัวของคุณมักจะตอบสนองอย่างไรในแง่ของแนวทางการบริหารจัดการ?

การตอบสนองของธุรกิจครอบครัวไทยต่อภาวะชะงักงันของตลาด หรือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรม

หมายเหตุ: ตัวเลขทั้งหมดที่แสดงในแผนภูมิวงแหวนเป็นเปอร์เซ็นต์
ที่มา: รายงานผลสำรวจธุรกิจครอบครัวทั่วโลก ประจำปี 2568 ฉบับประเทศไทยของ PwC

ความคล่องตัวในการปรับตัว

ธุรกิจครอบครัวที่สามารถก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างโดดเด่น จำเป็นต้องกล้าข้ามขีดจำกัดและรูปแบบเดิม ๆ โดยเลือกปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานในหลากหลายมิติ เพื่อเสริมสร้างข้อได้เปรียบเชิงโครงสร้าง เช่น การมีสถานะเป็นเจ้าของโดยเอกชนซึ่งช่วยให้ธุรกิจมีอิสระในการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว โครงสร้างองค์กรที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน และการกระจายอำนาจให้ผู้นำสามารถขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างคล่องตัวและเด็ดขาด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำพาธุรกิจครอบครัวให้สามารถคว้าโอกาสใหม่ ๆ และรับมือกับความท้าทายได้อย่างมั่นใจ

จากผลสำรวจของเรา พบว่า ธุรกิจครอบครัวไทยที่มีความคล่องตัวและสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด ความต้องการของลูกค้า และความท้าทายในการดำเนินงานในช่วงปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายเชิงพาณิชย์ที่แข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญ โดย 44% ของกลุ่มนี้มีอัตราการเติบโตของยอดขายเป็นเลขสองหลัก

ความคล่องตัวเชิงกลยุทธ์ในแต่ละด้านของธุรกิจครอบครัวไทย

ที่มา: รายงานผลสำรวจธุรกิจครอบครัวทั่วโลก ประจำปี 2568 ฉบับประเทศไทยของ PwC

AI ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ

ในปัจจุบัน เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการเติบโตทางธุรกิจทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ธุรกิจครอบครัวไทยยังคงขาดความตื่นตัวและการตระหนักรู้ต่อกระแสเมกะเทรนด์นี้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากผลสำรวจล่าสุดที่บ่งชี้ถึงช่องว่างด้านการนำเทคโนโลยี AI มาใช้

เพียง 3%

ของธุรกิจครอบครัวไทยเท่านั้น ที่ระบุว่า การได้ทดลองใช้ AI/GenAI เป็นโอกาสในการเติบโต (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 61%)

36%

ระบุว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตของธุรกิจครอบครัว (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 65%)

เพียง 22%

เท่านั้นที่ลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านธุรกิจไปสู่ดิจิทัลและการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในองค์กร (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 39%)

61%

มีแผนที่จะยกระดับการเปลี่ยนสู่ดิจิทัลและนำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจครอบครัวในอีกห้าปีข้างหน้า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 78%)

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้นำธุรกิจครอบครัวไทย

Contact us

Amornrat Pearmpoonvatanasuk
Amornrat Pearmpoonvatanasuk

Family Business Leader and Assurance Partner, PwC Thailand

เกี่ยวกับรายงานผลสำรวจธุรกิจครอบครัว

รายงานผลสํารวจธุรกิจครอบครัวทั่วโลก ประจำปี 2568 ของ PwC เป็นการสำรวจตลาดธุรกิจครอบครัวระหว่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทําความเข้าใจมุมมองของผู้นำธุรกิจครอบครัวที่มีต่อบริษัทและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน การสำรวจครั้งนี้เราร่วมมือกับ John L. Ward Center for Family Enterprises แห่ง Northwestern University ในนามของ Kellogg School of Management ซึ่งการสํารวจครั้งนี้ดำเนินการสัมภาษณ์ออนไลน์จำนวน 1,325 ราย จาก 62 ประเทศและอาณาเขต ระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 17 มิถุนายน 2568 

สำหรับผู้ตอบแบบสำรวจชาวไทย ประกอบด้วย ธุรกิจที่มีรายได้ตั้งแต่ต่ำกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (31%) ไปจนถึงธุรกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (6%) โดยอุตสาหกรรมหลัก คือ การผลิตและยานยนต์ (28%) และสินค้าอุปโภคบริโภค (28%) ส่วนที่เหลือมาจากกลุ่มบริการทางการเงิน เทคโนโลยี และการดูแลสุขภาพ รวมถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ

Principal authors

Ploy Ten Kate
Ploy Ten Kate

Director, Marketing and Communications, PwC Thailand

Piyanat Suanapai
Piyanat Suanapai

Senior Manager, Marketing and Communications, PwC Thailand

ดาวน์โหลดรายงานฉบับนี้

รายงานผลสำรวจธุรกิจครอบครัว ประจำปี 2568 ฉบับภาพรวมประเทศไทย

สำรวจเพิ่มเติม

อ่านรายงานฉบับโลกได้ที่นี่

Contact us

Marketing and Communications

Bangkok, PwC Thailand

Tel: +66 (0) 2844 1000, Ext. 4713-15, 18, 22-24, 26, 28 and 29

Follow us