29 กันยายน 2560, โดย กุลธิดา เด่นวิทยานันท์
เวลานี้กระแส “อินชัวร์เทค” (Insurance Technology: InsurTech) หรือ “การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำธุรกิจประกันภัย” คงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับประเทศไทยอีก
ต่อไป เพราะบรรดาผู้ประกอบการธุรกิจประกันภัยรายใหญ่ต่างเริ่มนำกลยุทธ์นี้เข้ามาประยุกต์กับธุรกิจและบริการของตนเองอย่างแพร่หลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล
ในบล็อกคราวก่อนผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของ อินชัวร์เทค ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดโลก มาคราวนี้ขอหยิบยกประเด็นความท้าทายที่ผู้ประกอบการของธุรกิจประกันภัยทั่วโลกรวมถึงไทยต้องเผชิญภายหลังการเข้ามาของอินชัวร์เทคมาเล่าสู่กันฟังบ้าง ซึ่งจากรายงาน “Global InsurTech Report – 2017: Insurance’s new normal: Driving innovation with InsurTech” ของ PwC ยังคงชี้ให้เห็นชัดว่า ธุรกิจประกันภัยทั่วโลกมีความตื่นตัวกับการเข้ามาของเทคโนโลยีทางการเงิน และยังเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการนำฟินเทคมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับภาคธุรกิจบริการทางการเงินอื่นๆ โดยยังพบว่า 45% ของธุรกิจประกันภัยที่ทำการสำรวจ 189 รายในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก มีการจับมือเป็นพันธมิตรกับสตาร์ทอัพอินชัวร์เทค
แน่นอนว่า เมื่อทิศทางของการประกอบธุรกิจประกันภัยเป็นเช่นนี้ การลงทุนของผู้ประกอบการในการผันธุรกิจเข้าสู่ดิจิทัลย่อมมีมากขึ้น โดยผลสำรวจดังกล่าวระบุว่า ธุรกิจประกันภัยวางแผนที่จะลงทุนในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (Data analytics) และ เทคโนโลยีบนสมาร์ทโฟน (Mobile technologies) เพื่อให้สามารถเข้าใจความเสี่ยงในเชิงลึกและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ PwC ยังระบุอีกว่า ธุรกิจประกันภัยเริ่มมีการนำเทคโนโลยีเกิดใหม่ อย่าง บล็อกเชน (Blockchain) ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) และระบบจัดการกระบวนการแบบอัตโนมัติ (Robotics Process Automation: RPA) เข้ามาใช้ โดย RPA ถูกนำมาใช้ในระบบงานหลังบ้าน (Back office) ส่วนปัญญาประดิษฐ์ถูกนำมาช่วยในกระบวนการเคลมประกันและพิจารณารับประกัน ซึ่งการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เหล่านี้มาใช้จะส่งผลให้ต้นทุนของอุตสาหกรรมถูกลงในที่สุด
เมื่ออินชัวร์เทคกลายเป็นนวัตกรรมที่บรรดาธุรกิจประกันภัยต่างหันมาใช้ต่อยอดและพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคเช่นนี้แล้ว ความท้าทายที่ตามมาควบคู่ไปกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีถือเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา โดยรายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า ความท้าทายสำคัญ 3 ประการที่อุตสาหกรรมประกันภัยทั่วโลกกำลังเผชิญในการนำนวัตกรรมไปต่อยอดผลิตภัณฑ์ ได้แก่
นี่คือบทสรุปสั้นๆ ของความท้าทายที่ธุรกิจประกันภัยต้องก้าวข้ามไปให้ได้ ซึ่ง “การเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และการปรับตัว” จะเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไม่เพียงอยู่รอดได้เท่านั้น แต่จะช่วยให้ก้าวทันและเติบโตท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีดิจิทัลที่ไหลบ่าเข้ามากระทบการดำเนินธุรกิจแบบดั้งเดิมเช่นนี้
สุดท้ายผู้ประกอบการต้องไม่ลืมว่า การลงทุนในเทคโนโลยีมูลค่ามหาศาลไม่ได้สำคัญไปกว่าการมีกระบวนการพัฒนานวัตกรรม เครื่องมือ และวัฒนธรรมองค์กรที่
ส่งเสริมและเกื้อหนุนระบบนิเวศน์อินชัวร์เทคในระยะยาว
Notes:
Marketing and Communications
Bangkok, PwC Thailand
Tel: +66 (0) 2844 1000, Ext. 4713-15, 18, 22-24, 26, 28 and 29