“InsurTech” ปฏิวัติวงการประกันภัย ตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคดิจิทัล

28 กุมภาพันธ์ 2560

โดย กุลธิดา เด่นวิทยานันท์

ปัจจุบันเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ดูจะเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทำให้หลายธุรกิจต้องปรับตัว โดยช่วงที่ผ่านมา เราจะเห็นกลุ่มสถาบันการเงิน ธุรกิจผู้ให้บริการทางการเงินและการลงทุน ขยับตัวกันยกใหญ่ หลังจากเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ “FinTech” (Financial Technology) เข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ต่อจากนี้ ถึงคราวของธุรกิจประกันภัยที่ต้องลุกขึ้นมาปรับตัวกันบ้าง เพื่อรับมือกับกระแส “InsurTech” (Insurance Technology) หรือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการทำธุรกิจประกันภัย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการและการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่

อินชัวร์เทค มีจุดเด่นอยู่ที่การช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ เพราะคือการนำเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มช่องทางในการให้บริการในหลากหลายมิติ แค่เพียงมีอุปกรณ์สมาร์ทโฟนก็สามารถจัดการกับประกันภัยได้ทุกเรื่อง ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น และถือเป็นการสร้างประสบการณ์สมาร์ทไลฟ์ให้กับลูกค้า อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์บริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Intelligence)  ที่ดีและสนองต่อพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ประกันภัยที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

นอกจากนี้ อินชัวร์เทค ยังสามารถให้คำปรึกษาและวิเคราะห์รูปแบบของประกันภัยที่เหมาะสมกับความต้องการและความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละราย รวมถึงคำนวณเบี้ยประกันภัย และจ่ายเงินผลประโยชน์ให้กับลูกค้าประกันภัยได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายขึ้น ผ่านแอปพลิเคชันบนสมารท์โฟน นี่จึงทำให้ธุรกิจประกันภัยทั่วโลกหันมาให้ความสนใจกับอินชัวร์เทคมากขึ้น เพราะนอกจากจะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจแล้ว ยังสามารถช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลสำรวจ “Embracing possibility, boosting innovation” ของ PwC ที่ผ่านมา น่าจะตอกย้ำเทรนด์ที่กำลังมาแรงนี้ได้เป็นอย่างดี โดยผลสำรวจพบว่า ธุรกิจประกันภัยจะเป็นอุตสาหกรรมอันดับต้นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของเทคโนโลยีมากที่สุด ขณะที่ 67% ของซีอีโอธุรกิจประกันภัยทั่วโลกเล็งเห็นถึงบทบาทของเทคโนโลยี โดยมองว่า ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ๆ (Creativity and innovation) จะเข้ามีความสำคัญมากที่สุดต่อการประกอบธุรกิจในอนาคต ส่วนกลุ่มเป้าหมายของอินชัวร์เทคหนีไม่พ้นกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) ที่ต้องการเข้าถึงสินค้าและบริการที่ไม่ซับซ้อน ต้องการความหลากหลาย และมีความยืดหยุ่นได้ 

 

ซีอีโอในกลุ่มธุรกิจประกันภัยมีความกังวลต่อการเข้ามาของเทคโนโลยีมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น
ที่มา: รายงาน ผลสำรวจ “Embracing possibility, boosting innovation” ของ PwC

 

คนเจนวาย: กลุ่มเป้าหมายอินชัวร์เทค

ผลสำรวจที่น่าสนใจอีกชิ้นของ “The Capgemini 2016 World Insurance Report” ที่ทำการศึกษาลูกค้ากว่า 15,000 รายใน 30 ประเทศทั่วโลกพบว่า บริษัทประกันภัยแบบดั้งเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเจนวายได้ โดยกลุ่มมิลเลนเนียลทั่วโลกเพียง 33.9% เท่านั้นที่ชื่นชอบการทำประกันกับบริษัทประกันภัยแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มเจนที่อายุมากกว่าที่ 55.4%

ตัวอย่างประเภทของอินชัวร์เทคที่อยากหยิบยกมาเล่าให้ฟังในวันนี้คือ อินชัวร์เทคที่ถูกนำมาประยุกต์เข้ากับระบบ “ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น” หรือ “Pay as you go” ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคและบรรดาสตาร์ทอัพ รวมไปถึงผู้ประกอบธุรกิจประกันภัย โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ ที่ต่างหันมาพัฒนาอินชัวร์เทคประเภทนี้ออกมาป้อนตลาดอย่างแพร่หลาย เพราะตอบโจทย์กับลูกค้าที่ต้องการการคุ้มครองระยะสั้น โดยลูกค้าสามารถเลือกใช้ประกันในช่วงที่ต้องการได้ และจ่ายเบี้ยประกันตามการใช้งานจริง

อินชัวร์เทคประเภทนี้ก็ เช่น Cuvva อินชัวร์เทคสัญชาติอังกฤษ เป็นโปรแกรมคุ้มครองเกี่ยวกับรถยนต์ระยะสั้นผ่านแอปพลิเคชัน โดยลูกค้าสามารถเลือกการคุ้มครองตามระยะเวลาที่ยืมรถยนต์มาใช้งาน แม้จะเป็นเวลาสั้นเพียง 1 ชั่วโมงก็คุ้มครองได้ แถมเบี้ยประกันที่ลูกค้าต้องจ่าย ก็คิดตามระยะเวลาการใช้งานจริง ไม่เหมือนในอดีตที่ต้องจ่ายเป็นก้อน และไม่สามารถเลือกระยะเวลาการคุ้มครองเป็นช่วงสั้นๆ ได้ หรือในประเทศไทยก็มีอินชัวร์เทคประกันรถเติมเงินแบบนี้ออกมาให้เห็นด้วยเหมือนกัน

ด้วยความที่ผู้ประกอบการธุรกิจประกันภัยและสตาร์ทอัพต่างหันมาลงทุนพัฒนาอินชัวร์เทคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี่เอง ทำให้มีการคาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตเฉลี่ยของตลาดอินชัวร์เทคในอีก 5 ปี ข้างหน้า (ปี 2559-2563) จะอยู่ที่ 10.4% ต่อปี ขณะที่เม็ดเงินลงทุนในอินชัวร์เทคก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจากรายงานของ CB Insights พบว่า ในปี 2559 มีเม็ดเงินในการลงทุนอินชัวร์เทคของสตาร์ทอัพทั่วโลกสูงถึง 1.69 พันล้านดอลลาร์ หรือเติบโตขึ้น 42% จากปีก่อน โดยสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศผู้นำการแจ้งเกิดของเหล่าสตาร์ทอัพอินชัวร์เทคสูงที่สุด ทิ้งห่างจากประเทศอื่น เช่น เยอรมนี และ สหราชอาณาจักร เป็นต้น

ส่วนฝั่งเอเชียนั้น รายงานของ Forbes เปิดเผยว่า สิงคโปร์ และ ฮ่องกงจะกลายเป็นศูนย์กลางของการลงทุนอินชัวร์เทค โดยเอเชียจะกลายเป็นขุมทรัพย์ของตลาดอินชัวร์เทคในอนาคต ด้วยจำนวนประชากรกว่า 4.4 พันล้านคน ขณะที่ชนชั้นกลางในเอเชียจะมีสัดส่วนถึง 64% ของชนชั้นกลางทั่วโลกในปี 2573 ซึ่งคนกลุ่มนี้แน่นอนว่า จะยิ่งต้องการความสะดวกสบาย และใช้ชีวิตประจำวันผ่านการเชื่อมต่อสิ่งต่างๆ เข้ากับสมาร์ทโฟน แถมยังมีการคาดการณ์ด้วยว่า คนที่อาศัยในตลาดเกิดใหม่อย่างเอเชียกลุ่มนี้จะเป็นผู้นำที่ผลักดันให้กระแสอินชัวร์เทคเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต

แผนภาพแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มจุดแข็งให้ธุรกิจประกันภัยที่มา: รายงาน ผลสำรวจ “Embracing possibility, boosting innovation” ของ PwC 

 

จับตา “อินชัวร์เทค” ในไทย

สำหรับประเทศไทยบ้านเราก็ตื่นตัวกับกระแสอินชัวร์เทคไม่แพ้ประเทศอื่นเช่นกัน โดยปัจจุบันผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพไทยเริ่มพัฒนาอินชัวร์เทคออกมาป้อนตลาด ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชันประกันภัยรถยนต์ “เคลมดิ” หรือ “รู้ใจ” ที่ช่วยให้การเคลมประกันรถสะดวก และรวดเร็วขึ้น ไปจนถึง บริการประกันภัยออนไลน์ทุกรูปแบบผ่านเว็บและแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ เรายังเริ่มเห็นการผนึกกำลังกันระหว่างธุรกิจประกันภัย กับสตาร์ทอัพอินชัวร์เทค หรือผู้ประกอบการในธุรกิจอื่นๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสัญญาณที่ดีต่อวงการประกันภัยของไทยทั้งสิ้น

ด้านหน่วยงานกำกับของไทย อย่างคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ก็ดูจะตื่นตัวกับกระแสอินชัวร์เทคไม่น้อย ล่าสุดมีการออกร่างกฎหมายกำกับดูแลการซื้อขายประกันผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อดูแลการทำธุรกรรมประกันภัยออนไลน์และคุ้มครองผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง โดย คปภ. พร้อมจะผลักดันให้อุตสาหกรรมประกันภัยนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค และให้สอดรับกับโนบายไทยแลนด์ 4.0

แต่อย่างไรก็ดี เมื่ออินชัวร์เทคเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น สิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือความเสี่ยง โดยการรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ (Cyber security) ยังคงเป็นโจทย์ที่ท้าทายของอินชัวร์เทคที่ทั้งผู้เล่นและหน่วยงานกำกับทั่วโลกต้องร่วมมือกันป้องกันและแก้ไข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและขยายตลาดอินชัวร์เทคให้เติบโตในวงกว้างมากขึ้นต่อไป

 

Contact us

Marketing and Communications

Bangkok, PwC Thailand

Tel: +66 (0) 2844 1000, Ext. 4713-15, 18, 22-24, 26, 28 and 29

Follow us