กรุงเทพฯ, 16 มิถุนายน 2566 – PwC ประเทศไทย แนะธุรกิจวางกลยุทธ์เพื่อเปลี่ยนผ่านโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีแบบดั้งเดิมสู่ระบบคลาวด์ ชี้ฝ่ายบริหารต้องกำหนดวิธีการและการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อตอบโจทย์การเติบโตของธุรกิจ พร้อมพัฒนาทักษะเชิงลึกเกี่ยวกับคลาวด์ให้กับบุคลากรเพื่อเสริมศักยภาพการใช้งานและช่วยบำรุงรักษาระบบควบคู่กัน
นางสาว วิไลพร ทวีลาภพันทอง หัวหน้าสายงานธุรกิจที่ปรึกษา PwC ประเทศไทย และหัวหน้ากลุ่มลูกค้าธุรกิจบริการทางการเงินเชิงกลยุทธ์และการดำเนินงาน PwC South East Asia Consulting กล่าวว่า ภาคธุรกิจไทยในปัจจุบันเริ่มหันมาประยุกต์ใช้ระบบคลาวด์ในหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เช่น ใช้ระบบสำรองข้อมูลบนคลาวด์ พัฒนาโปรแกรมบนคลาวด์ หรือหากติดตั้งระบบไอทีใหม่ก็จะตัดสินใจเลือกใช้คลาวด์ แทนการใช้งานระบบดั้งเดิม (Legacy IT system) ที่มีการใช้ฮาร์ดแวร์และมีความยืดหยุ่นน้อย รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูง
“วันนี้ cloud กำลังเป็นกลยุทธ์ระดับองค์กรที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยองค์กรที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ หลายแห่งเลือกใช้คลาวด์เนื่องจากเป็นการเช่าใช้และจ่ายตามจริง ซึ่งลดการลงทุนได้เป็นจำนวนมากในช่วงแรก นอกจากนี้ ยังไม่ต้องลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์ ทำให้เกิดความสะดวกและสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม” นางสาว วิไลพร กล่าว
“สำหรับองค์กรที่ถูกจัดตั้งมานานและมีการลงทุนด้านไอทีไปบ้างแล้ว ก็มีความพยายามในการ migrate ระบบงานปัจจุบันขึ้นไปยังคลาวด์ ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์แบบส่วนตัว คลาวด์แบบสาธารณะ หรือคลาวด์แบบไฮบริด เพื่อเปลี่ยนกระบวนการทำงานทั้งหมดไปสู่ดิจิทัล” เธอ กล่าว
นอกจากนี้ องค์กรหลายแห่งยังได้มีการทำแผนสำหรับการย้ายข้อมูลไปสู่ระบบคลาวด์ (Cloud migration) เพื่อรองรับกับเทคโนโลยีอื่น ๆ ในการพัฒนาธุรกิจสำหรับอนาคต เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) บิ๊ก ดาต้า และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning)
ทั้งนี้ กระแสการใช้งานคลาวด์ที่กำลังได้รับความนิยมภายในประเทศยังสอดคล้องกับข้อมูลจากรายงาน PwC’s Cloud Business Survey 2023 ที่ระบุว่า 78% ของธุรกิจจำนวน 1,010 แห่งที่ถูกสำรวจในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการนำเทคโนโลยีคลาวด์มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจเป็นส่วนใหญ่หรือทั้งหมด ขณะที่ 66% ของธุรกิจบริการทางการเงิน ใช้ระบบคลาวด์เพื่อขยายการเติบโตและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด
นอกจากนี้ ผลสำรวจซีอีโอทั่วโลกประจำปี ครั้งที่ 26 ฉบับเอเชียแปซิฟิก ระบุด้วยว่า 67% ของซีอีโอในภูมิภาคมีแผนที่จะนำคลาวด์ เอไอ และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่น ๆ มาใช้ในอีก 12 เดือนข้างหน้า โดยการพัฒนาทักษะของพนักงาน ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ ซึ่ง 73% ของซีอีโอกล่าวว่า ต้องการลงทุนในการยกระดับทักษะพนักงานของตนในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ดี นางสาว วิไลพร กล่าวว่า อุปสรรคสำคัญของบริษัทขนาดใหญ่ในการโอนย้ายระบบคลาวด์ คือ ความซับซ้อนด้านเทคนิคของระบบงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบที่มีการจัดเก็บข้อมูลที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งแม้ว่าบริษัทหลายแห่งจะได้มีการทำแผนและวิเคราะห์แนวทางการย้ายข้อมูลแต่ก็ยังไม่มากเท่าที่ควร เนื่องจากต้องมีความระมัดระวังในหลายด้าน รวมถึงต้องปฏิบัติตามนโยบายการกำกับดูแลและการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎระเบียบของบริษัทและหน่วยงานกำกับ นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาถึงการย้ายข้อมูลที่มีหลายรูปแบบ เช่น การยกทั้งระบบขึ้นไปบนคลาวด์ (Lift and Shift) หรือการสร้างระบบใหม่เพื่อให้รองรับการทำงานบนคลาวด์ (Rebuild) ซึ่งธุรกิจจะต้องเลือกกลยุทธ์และวิธีการให้เหมาะสม
ทั้งนี้ การกำหนดกลยุทธ์ในการย้ายข้อมูลขึ้นบนคลาวด์ ถือเป็นสิ่งสำคัญเพราะช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดวิธีการและการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ต้องการ นางสาว วิไลพร กล่าวว่า การย้ายข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์กรควรต้องเริ่มจากการเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของผู้บริหารในการนำคลาวด์มาประยุกต์ใช้ ที่มิใช่เพียงแค่การทดแทนระบบเก่า แต่เป็นการเปลี่ยนผ่านกระบวนการทำงานไปสู่ดิจิทัลโดยยกเครื่องระบบเดิมสู่ระบบใหม่ที่ทันสมัยเพื่อขยายขีดความสามารถขององค์กรในอนาคต
สำหรับการกำหนดกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านระบบคลาวด์นั้น นางสาว วิไลพร กล่าวว่า มีหลากหลายลักษณะขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการว่าต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงการทำงานทั่วทั้งองค์กรในระดับที่มากหรือน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถพิจารณากลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์ (Cloud-powered business transformation) ของ PwC ซึ่งแบ่งออกเป็นสี่รูปแบบตามระดับการเปลี่ยนผ่านสู่คลาวด์ขององค์กร ดังต่อไปนี้
“อย่างที่กล่าวไปว่า การย้ายข้อมูลขึ้นคลาวด์เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล องค์กรจะต้องมีวางโครงสร้างพื้นฐานไอทีและปรับระบบการทำงานให้ทันสมัย มีระบบความปลอดภัย รวมถึงมีระบบปฏิบัติงานที่สนับสนุนการใช้คลาวด์อย่างแท้จริง ในขณะเดียวกัน ผู้บริหารจะต้องเสริมทักษะคลาวด์เชิงลึกให้แก่พนักงาน เพื่อให้สามารถดึงศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ออกมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด”
นางสาว วิไลพร กล่าว
//จบ//
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับ PwC
ที่ PwC เป้าประสงค์ของเรา คือ การสร้างความไว้วางใจในสังคมและช่วยแก้ปัญหาสำคัญให้กับลูกค้า เราเป็นหนึ่งในบริษัทเครือข่าย 152 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานเกือบ 328,000 คนที่ยึดมั่นในการส่งมอบบริการคุณภาพด้านการตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษาทางธุรกิจ กฎหมายและภาษี หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ www.pwc.com
เกี่ยวกับ PwC ประเทศไทย
PwC ประเทศไทย ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2502 โดยมีบทบาทในการช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจไทยมานานกว่า 64 ปี PwC ผสมผสานประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถในการทำงานกับลูกค้าข้ามชาติ ผนวกกับความเข้าใจตลาดภายในประเทศเป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ชื่อเสียงของ PwC เป็นที่ยอมรับและได้รับความไว้วางใจจากภาคธุรกิจต่าง ๆ โดยปัจจุบัน มีบุคลากรมากกว่า 1,800 คนในประเทศไทย
PwC refers to the Thailand member firm, and may sometimes refer to the PwC network. Each member firm is a separate legal entity. Please see www.pwc.com/structure for further details.
© 2023 PwC. All rights reserved