คำแนะนำสำหรับผู้นำรุ่นใหม่

นอกเหนือจากการทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการแล้ว ผู้บริหารเน็กซ์เจนรุ่นใหม่ต้องมีความเข้าใจตลาดที่ธุรกิจครอบครัวดำเนินกิจการอยู่ รวมทั้งต้องรู้จักทีมงานและคนที่ตนทำงานด้วย พวกเขาต้องเข้าใจว่า ตลาดและกลุ่มอุตสาหกรรมแต่ละประเภทมีความน่าสนใจแตกต่างกันไป ดังนั้น ต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจตลาดในทุก ๆ แง่มุม รวมถึงเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าไม่เฉพาะภายในประเทศ แต่ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก เพราะนี่จะเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยทำให้พวกเขาเห็นถึงแนวโน้มและสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ธุรกิจที่เหมาะสมได้ เมื่อผู้นำรุ่นใหม่สามารถประยุกต์ใช้ความรู้อย่างที่ธุรกิจต้องการได้ ก็จะได้รับความไว้วางใจและความเคารพจากผู้อื่นตามมา

นอกจากนี้ การสร้างความเคารพยังขึ้นอยู่กับปัจจัยที่มีความละเอียดอ่อนอื่น ๆ ที่ผู้นำรุ่นใหม่ต้องใส่ใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำงานกับทีมงานที่ประกอบไปด้วยพนักงานที่มีความแตกต่างหลากหลายในเรื่องของอายุและประสบการณ์ พนักงานบางรายอาจมีความอาวุโส และมีประสบการณ์มากกว่าผู้นำรุ่นใหม่ หรือบางรายอาจทำงานมานาน และเคยชินกับวิธีการทำงานในรูปแบบเดิม ๆ ที่เคยทำมา ดังนั้น ผู้นำรุ่นใหม่ต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการทำทีมงานมั่นใจได้ว่า เราทุกคนต่างลงเรือลำเดียวกัน เช่น ต้องมีการสื่อสารและรับฟังความคิดเห็นของทีมงานอยู่เป็นประจำ เพราะนี่จะช่วยให้ทุกคนในทีมมีความเข้าใจที่ตรงกันและช่วยให้การทำงานมุ่งไปในทิศทางเดียวกันเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้

เคล็ดลับของการได้รับการยอมรับ คือ ต้องทำงานให้หนักขึ้นเป็น 2 เท่า โดยต้องเป็นผู้ใฝ่รู้อยู่ตลอดเวลา ให้ความเคารพผู้อื่น และในวัฒนธรรมของเอเชีย ต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตนด้วย หากผู้นำรุ่นใหม่ปฏิบัติสิ่งเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน ก็จะได้รับการยอมรับนับถือและความเคารพจากผู้นำรุ่นปัจจุบันและผู้คนรอบข้างในที่สุด

ผู้นำรุ่นใหม่ที่ถูกสำรวจมากกว่าครึ่งระบุว่า การมุ่งเน้นไปที่การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (การดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีทักษะ รวมถึงการเสริมทักษะให้กับพนักงาน) เป็นหนึ่งในแผนงานที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของธุรกิจครอบครัว เพราะเรื่องของการบริหารจัดการคน ถือเป็นความท้าทายสำหรับผู้บริหารมาโดยตลอด โดยต้องมั่นใจว่า การปฏิบัติการ กระบวนการทำงาน และทีมงานทำงานอย่างสอดประสานกันทั่วทั้งองค์กร ดังนั้น การมีทีมงานที่ดี จะต้องนำจุดแข็งของสมาชิกในทีมแต่ละคนออกมาใช้ ซึ่งหากทำได้ ก็จะส่งผลให้การทำงานขององค์กรเกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้ ผู้นำรุ่นใหม่ต้องรู้ว่า ผู้อื่นมองตนเองอย่างไร และในขณะเดียวกันก็สามารถประเมินผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุคลิกลักษณะและจุดแข็งของพนักงานที่มีความสำคัญต่อองค์กร ผู้นำเหล่านี้ต้องหาสมดุลระหว่างจุดแข็งและคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของพนักงาน และต้องให้เวทีที่ทีมงานและพนักงานในองค์กรจะสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมได้ นี่ยังเป็นโอกาสที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทรัพยากรบุคคลและเครือข่ายของธุรกิจครอบครัว รวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้วย และที่สำคัญ ผู้นำรุ่นใหม่ต้องบริหารงานให้สอดคล้องไปกับคุณค่าที่ผู้นำรุ่นปัจจุบันได้กำหนดไว้