เปิดโอกาสให้ผู้นำรุ่นใหม่ได้พิสูจน์ความสามารถ

ผู้นำรุ่นใหม่ไฟแรงมักมีความทะเยอทะยานและมีความตั้งใจสูงในการมีส่วนร่วมในการบริหารธุรกิจครอบครัว เราจะเห็นว่า ทายาทส่วนใหญ่เหล่านี้ต้องการขับเคลื่อนองค์กร สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ ควบคู่ไปกับการรักษา และสืบทอดมรดกของครอบครัวให้คงอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล แต่ผลสำรวจระบุว่า เมื่อธุรกิจต้องเผชิญกับความท้าทาย ผู้นำรุ่นใหม่กลับไม่ได้รับโอกาสให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ส่งผลให้ตนรู้สึกว่าไม่ได้รับความไว้วางใจ และถูกสกัดกั้น เพราะถูกมองว่า ยังไม่พร้อม

รายงานผลสำรวจพบว่า ผู้นำรุ่นใหม่ของไทยต้องการที่จะบริหารธุรกิจและรู้สึกว่า พวกเขาสามารถช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจครอบครัวได้ในหลาย 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาทักษะ (83%) ตามมาด้วย การขยายการลงทุนในต่างประเทศ (59%) และการสร้างเครือข่ายธุรกิจ (48%) โดยเมื่อเปรียบเทียบกับผู้นำรุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลกพบว่า การพัฒนาทักษะยังเป็นสิ่งที่ผู้นำเชื่อว่า สามารถช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจครอบครัวได้เป็นอันดับแรกเช่นกันที่ 62% และ 61%

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทายาทธุรกิจเหล่านี้ยังไม่มั่นใจคือ การเป็นผู้นำโดยส่วนใหญ่ (76%) เปิดเผยว่า ประสบการณ์การบริหารธุรกิจภายในครอบครัวยังมีข้อจำกัดที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจได้อย่างเต็มที่ เปรียบเทียบกับ 63% ของผู้นำรุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและ 59% จากทั่วโลก

เมื่อให้ผู้นำรุ่นใหม่ประเมินตัวเอง ผลสำรวจพบว่า 3 ทักษะแรกที่ผู้บริหารเน็กซ์เจนรุ่นใหม่มีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ การแก้ปัญหาและการคิดเชิงกลยุทธ์ การปฏิบัติการ และการเป็นผู้นำ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า ทักษะเหล่านี้มีความสำคัญต่อบทบาทของตนเองในอนาคต โดย 3 วิธีที่ผู้นำรุ่นใหม่ไทยใช้ในการสร้างทักษะให้กับตัวเอง ได้แก่ การเข้าศึกษาในวิทยาลัย/มหาวิทยาลัย/สถาบันบริหารธุรกิจ (62%) การเข้าร่วมงานประชุมหรือสัมมนา (62%) และการเรียนรู้จากเครือข่ายเพื่อน (62%)

นอกจากนี้ ผู้นำรุ่นใหม่ยังต้องการได้รับการสนับสนุนและความไว้วางใจที่เพิ่มขึ้นในการบริหารงานด้วย เพราะสุดท้ายแล้ว ผู้นำธุรกิจครอบครัวรุ่นปัจจุบันจะเป็นคนที่ให้โอกาสทายาทรุ่นต่อไปได้แสดงศักยภาพและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญต่าง ๆ ดังนั้น ผู้บริหารรุ่นพ่อ-แม่จำเป็นจัดหาทางเลือกที่เหมาะสมให้ผู้นำรุ่นลูกได้พัฒนาประสบการณ์และทักษะ รวมทั้งต้องให้โอกาสพวกเขาได้ลองบริหารธุรกิจด้วยตัวเอง เพื่อแสดงให้เห็นว่า พวกเขาได้รับความไว้วางใจและได้รับการสนับสนุนในการขับเคลื่อนองค์กร

“การส่งต่อธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นไม่ใช่เรื่องของการส่งต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจเท่านั้นแต่ยังเป็นการสืบทอดคุณค่าหลักของธุรกิจที่ต้องส่งผ่านเพื่อรักษาความยั่งยืนของกิจการด้วย”

พูนพัฒน์ โลหารชุนทายาทรุ่นที่ 3 และที่ปรึกษา บริษัท ดำรงเสรี จำกัด

Contact us

Sinsiri Thangsombat

Entrepreneurial and Private Business Leader, Assurance Partner, PwC Thailand

Tel: +66 (0) 2844 1000

Follow us