กรุงเทพฯ, 15 สิงหาคม 2568 – PwC คาดการณ์รายได้อุตสาหกรรมความบันเทิงและสื่อของไทยปี 68 ทะลุ 7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน แม้ภาวะเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว แต่รายได้จากตลาดบริการ OTT และโฆษณาออนไลน์ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แนะผู้ประกอบการนำ AI มาสร้างประสบการณ์ผู้ใช้เฉพาะเจาะจงและปรับแต่งคอนเทนต์ที่โดนใจเพื่อหนุนการเติบโตของรายได้ในระยะยาว
รายงาน Global Entertainment & Media (E&M) Outlook 2025-2029 ของ PwC ระบุว่า รายได้รวมของอุตสาหกรรมความบันเทิงและสื่อของไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 700,939 ล้านบาทในปี 2568 จากปีก่อนที่ 672,421 ล้านบาท และคาดว่าจะสูงถึง 788,422 ล้านบาทในปี 2572 หรือคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (compound annual growth rate: CAGR) ที่ 2.98% โดยมีตลาดบริการวิดีโอแบบ Over-the-top (OTT) และโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านสู่รูปแบบดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ การบริโภคภายในประเทศที่หดตัว รวมไปถึงสถานการณ์การเมืองที่มีความไม่แน่นอน
นางสาว ธิตินันท์ แว่นแก้ว หุ้นส่วนสายงานตรวจสอบบัญชี บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวว่า:
“แม้ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศจะชะลอตัวและผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย แต่รายได้ของอุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีในปีนี้ ด้วยพลังของสื่อดิจิทัลที่กลายเป็นช่องทางหลักของการเสพสื่อ เห็นได้จากวิดีโอ OTT และโฆษณาทางอินเทอร์เน็ตที่ี่ยังเติบโตต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนสู่รูปแบบดิจิทัลอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมนี้ในไทย”
ทั้งนี้ รายงานของ PwC ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลรายได้และแนวโน้มการเติบโตของ 12 กลุ่มอุตสาหกรรมความบันเทิงและสื่อใน 54 ประเทศและอาณาเขตทั่วโลก คาดการณ์ว่า ในปี 2568 ธุรกิจความบันเทิงและสื่อของไทยที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดสามอันดับแรก ได้แก่ บริการวิดีโอ OTT (เติบโต 21% จากปีก่อน เป็น 33,862 ล้านบาท) โฆษณาออนไลน์หรือโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต (เติบโต 14% จากปีก่อน เป็น 67,270 ล้านบาท) และวิดีโอเกมส์รวมถึงอีสปอร์ต (เติบโต 12% จากปีก่อน เป็น 52,268 ล้านบาท)
เมื่อพิจารณาข้อมูลในระดับโลก รายงานคาดว่าอุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อทั่วโลกจะเติบโตเป็น 3.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 126 ล้านล้านบาท (คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 36 บาท) ในปี 2572 ด้วยอัตราเติบโตเฉลี่ย 3.7% ต่อปี ซึ่งอุตสาหกรรมนี้ยังคงมีความยืดหยุ่นและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตลาดวิดีโอ OTT ของประเทศไทยมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยรายงานคาดว่ารายได้รวมปี 2568 จะเพิ่มขึ้น 21% เป็น 33,862 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 2563 ถึงหกเท่า
นางสาว ธิตินันท์ กล่าวเสริมว่า ตลาดนี้ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตเพิ่มเติมเนื่องจากผู้ให้บริการหลายรายเริ่มนำเสนอบริการใหม่ รวมถึงแพ็กเกจมือถือราคาประหยัดร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมของประเทศ ซึ่งในระยะข้างหน้า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์ถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการขยายตัวของตลาดวิดีโอออนดีมานด์ (VOD)
ในขณะเดียวกัน สื่อดิจิทัลและโฆษณาออนไลน์ก็ยังคงเติบโต เนื่องจากผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่นิยมใช้อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียสูง ทำให้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ หันมาใช้สื่อประเภทนี้ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตลาดออนไลน์โดยใช้ อินฟลูเอนเซอร์ เป็นอีกช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศ ซึ่งรายงานของ PwC ระบุว่า รายได้โฆษณาออนไลน์ของไทยจะเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 10% ในช่วงปี 2568-2572
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence: AI) กำลังมีบทบาทต่ออุตสาหกรรมความบันเทิงและสื่อในหลาย ๆ ด้าน และเปิดโอกาสให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะโทรทัศน์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อสตรีมเนื้อหาวิดีโอ ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับอุตสาหกรรม จากการใช้ AI และการปรับแต่งคอนเทนต์เฉพาะบุคคล ทำให้เข้าถึงผู้ใช้ได้มากขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง
“ในปัจจุบันผู้บริโภคไทยมีตัวเลือกสำหรับบริการสื่อและความบันเทิงเยอะกว่าที่เคย แต่ในขณะเดียวกันการแข่งขันในอุตสาหกรรมก็รุนแรงขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อโดยรวมลดลง ถ้าธุรกิจบันเทิงและสื่อต้องการดึงดูดผู้ชมกลุ่มใหม่ ๆ และสร้างการเติบโตได้อย่างยั่นยืน ก็ควรนำแนวคิดเรื่องระบบนิเวศที่เชื่อมโยงกันมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจที่มีอยู่ และใช้ประโยชน์จากพลังของโฆษณาดิจิทัลและ AI ในการสร้างเนื้อหาและการมีส่วนร่วมที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลมากขึ้น” นางสาว ธิตินันท์ กล่าว
//จบ//
เกี่ยวกับรายงาน Global Entertainment and Media Outlook 2025-2029
รายงานประจำปี Global Entertainment & Media (E&M) Outlook 2025-2029 ของ PwC วิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงใน 54 ประเทศและอาณาเขตทั่วโลก ครอบคลุมทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรปตะวันตก ยุโรปกลาง ตะวันออกกลางและแอฟริกา ละตินอเมริกา และเอเชียแปซิฟิก สำหรับกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือที่เหลือ (MENA) ถือเป็นเขตแดน ประกอบด้วยแอลจีเรีย บาห์เรน จอร์แดน คูเวต เลบานอน โมร็อกโก โอมาน และกาตาร์ นอกจากนี้ ในปีนี้รายงานยังได้เพิ่มมอริเชียสและโอเชียเนียเป็นภูมิภาคที่ถูกวิเคราะห์ด้วย โดยประเทศและอาณาเขตทั้งหมดกล่าวนี้คิดเป็นประมาณ 74% ของประชากรโลก และผลรวมของอาณาเขตทั้งหมดเป็นตัวเลขประมาณการ “รวม” ของอุตสาหกรรม ขั้นตอนการคาดการณ์เริ่มจากการรวบรวมข้อมูลย้อนหลังที่ถูกต้องและครอบคลุมจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ เช่น สมาคมการค้าและหน่วยงานรัฐบาล ซึ่งจะมีการอ้างอิงเมื่อใช้ข้อมูลโดยตรง นอกจากนี้ยังเสริมด้วยข้อมูลเชิงลึกเฉพาะทางที่ได้จากการสัมภาษณ์สมาคมอุตสาหกรรม หน่วยงานกำกับดูแล และผู้นำตลาด ทั้งนี้ ข้อมูลสาธารณะและข้อมูลภายในนี้ช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการจัดทำประมาณการในอนาคต
เกี่ยวกับ PwC
ที่ PwC เราช่วยลูกค้าสร้างความไว้วางใจและคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถเปลี่ยนความซับซ้อนให้เป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน เราเป็นเครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและมีบุคลากรมากกว่า 370,000 คนใน 149 ประเทศ เราช่วยสร้าง เร่ง และรักษาโมเมนตัมให้คงอยู่ได้ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทั้งในด้านการตรวจสอบบัญชี ภาษีและกฎหมาย ดีลส์ และการให้คำปรึกษา คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pwc.com
เกี่ยวกับ PwC ประเทศไทย
PwC ประเทศไทย ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2502 โดยมีบทบาทในการช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจไทยมานานกว่า 65 ปี PwC ผสมผสานประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถในการทำงานกับลูกค้าข้ามชาติ ผนวกกับความเข้าใจตลาดภายในประเทศเป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ชื่อเสียงของ PwC เป็นที่ยอมรับและได้รับความไว้วางใจจากภาคธุรกิจต่าง ๆ โดยปัจจุบัน มีบุคลากรมากกว่า 1,800 คนในประเทศไทย
PwC refers to the Thailand member firm, and may sometimes refer to the PwC network. Each member firm is a separate legal entity. Please see www.pwc.com/structure for further details.
© 2025 PwC. All rights reserved